1. ลูกเบี้ยว (Eccentric) เป็นตัวเปลี่ยนทิศทางจากการหมุนมาเป็นการเคลื้อนที่ไปมาในแนวเส้นตรง
2. ก้านลูกสูบ (Piston Rod or Plunger) เป็ นแท่งเหล็กซึ่งเชื้อมระหว่างลูกเบี้ยวกับไดอะแฟรม (Diaphragm) ทําหน้าที่ดึงไดอะแฟรมขึ้นลงตามจังหวะการเคลื้อนที่ของลูกเบี้ยว
3. ไดอะแฟรม (Diaphragm) เป็นแผนยางรูปวงแหวน ทําหน้าที่ดัน (Pulsion) และดูด (Suction) เพื่อทําให้นํ้าเคลื้อนที่ขึ้นลงในห้องแยกแร่ จิ๊กบางชนิดใช้ลูกสูบ (Plunger) แทนไดอะแฟรมซึ๋งมีการทํางานแผน
เดียวกัน
ข. ส่วนแยกแร่ ส่วนนี้ประกอบด้วย
1. ตะแกรง (Sieve) เป็นตะแกรงแบบรูกลมหรือรูสี่เหลี่ยมก็ได้ ควรมีรูขนาดโตกวาเม็ดแร่ที่ต้องการ แยกเพื่อให้เม็ดแร่ลอดผ่านตะแกรงได้ แต่เครืองแยกบางประเภทใช้ตะแกรง ซึ้งมีรูเล็กกว่าขนาดของเม็ดแร่โดยให้ เม็ดแร่ซึ่งแยกแล้วสะสมตัวอยูบนตะแกรง แต่ไม่สู้นิยมใช้แพร่หลายนัก จิ๊กบางแบบสร้างให้ตะแกรงเคลื่อนที่ขึ้นลงแทนการใช้ไดอะแฟรม หรือลูกสูบ แต่ปัจจุบันนี้นิยมใช้ กนน้อย ั
2. เม็ดลูกจิ๊ก (Ragging) เป็นเม็ดแร่หรือโลหะวางเป็นชั้นอยู่บนตะแกรงแร่ หรือวัตถุที่จะนํามาใช้เป็น Ragging นั้น ต้องมีลักษณะเหมาะสมทั่้งขนาดและรูปร่าง มี ถ.พ. อยูระหว่างแร่และมลทินที่ต้องการแยก เช่น ถ้า ต้องการจะแยกแร่ตะกั่ว (Galena) ออกจากหินหรือทราย การเลือกชนิดแร่ซึงจะทําเป็นเม็ดลูกจิ๊ก จะต้องหาชนิดที๋มี ถ.พ. อยู่ระหว่างตะกํ๋วและทราย ถ.พ. ตะกํ๋วประมาณ 7.0 และ ถ.พ. ทรายประมาณ 2.7 ในที๋นี็เม็ดลูกจิีกที่นิยมใช้กันได้แก่ แร่ฮีมาไทต์ซึ่งมี ถ.พ. 5.2 สําหรับรูปร่างและขนาดนั้น ควรมีรูปร่างกลมและโตกวารูตะแกรงที่ใช้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น